เออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือที่เรียกกันว่า (Erling Haaland) กองหน้าฟอร์ดุของแมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นหอกอสูรให้กับสโมสร ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และทีมชาตินอร์เวย์ สร้างชื่อในผลบอลพรีเมียร์ลีก ทำให้จ่าฝูงต้องเปลี่ยน ยิงแบบกระจายทำให้ลุ้นหนีตกชั้นได้ ทำให้แมนฯ ซิตี้ 73 คะแนน (32 นัด) อยู่อันดับ1ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วง เมษายน 67
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ นักเตะระดับท็อป ของแมนฯ ซิตี้ ย้ายมาโชว์ฟอร์มได้ดุเดือนและร้อนแรง ในวันที่1 กรกฎาคม สัญญายาวถึง5ปีกับสโมสร ฮาลันด์เป็นตัวเปลี่ยนเกมที่หาทางจับได้ยาก ช่วยให้ทีมลุ้นให้คว้าแชมป์ให้ได้อีกในซีซันนี้
เบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
ด้วยความสามารถและศักยภาพที่ยอดเยี่ยม เออร์ลิงฮาแลนด์มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล และสร้างประวัติศาสตร์ในวงการฟุตบอลต่อไป แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองการพัฒนาของเออร์ลิงฮาแลนด์ เบื้องหลังความสำเร็จมีอะไรบ้าง
- 100 ประตู ฮาแลนด์ทำลายสถิติการทำประตู 100 ลูกในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นสถิติที่นักฟุตบอลหลายคนใฝ่ฝัน
- อัตราการทำประตูต่อนัด ฮาแลนด์มีอัตราการทำประตูต่อนัดที่สูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวาในการทำประตู
- การทำประตูในรายการต่างๆ ฮาแลนด์สามารถทำประตูได้ในทุกๆ รายการที่ลงแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นลีกในประเทศ หรือรายการระดับนานาชาติ
- การสร้างสถิติใหม่ๆ ฮาแลนด์มักจะสร้างสถิติใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่านักฟุตบอลคนอื่นๆ
ฮาแลนด์ ทำสถิติให้ แมนซิตี้ ในฤดูกาลแรก
ฮาแลนด์วัยเพียง 22 ปี เจ้าของความสูง 195 เซนติเมตร ย้ายจาก “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2022 ด้วยค่าตัวประมาณ 60 ล้านยูโร หรือ 51 ล้านปอนด์ และเซ็นสัญญายาว 5 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน 2027 โดยได้รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 375,000 ปอนด์ หรือประมาณ 15.9 ล้านบาท
ในฤดูกาลแรกกับทีม ฮาแลนด์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 35 นัดจาก 38 นัด และทำประตูได้ถึง 36 ประตู พร้อมกับทำ 8 แอสซิสต์ คว้ารางวัลดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกไปครอง และยังทำลายสถิติการยิงประตูมากที่สุดในฤดูกาลเดียว ซึ่งเคยถูกครองโดย แอนดี้ โคล และ อลัน เชียเรอร์
นอกจากนี้ ฮาแลนด์ยังเป็นกำลังสำคัญที่พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งที่ 7 รวมทั้งพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยฮาแลนด์ทำประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ได้ถึง 12 ประตูจาก 11 นัด และยังได้รับรางวัลลูกยิงยอดเยี่ยมจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022/23
สรุปแล้ว ฮาแลนด์ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในทุกรายการไป 53 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 52 ประตู และทำแอสซิสต์ได้ 9 ครั้ง คว้ารางวัลดาวซัลโวทั้งในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2022/23 จากสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ
ทักษะการยิงประตู ที่เคยเล่นจนถึงปัจจุบัน
สโมสรที่เคยเล่น | ประตูที่ทำได้ | ค่าเหนื่อย |
ทีมชาตินอร์เวย์ (2019-ปัจจุบัน) | ลงเล่น 23 นัด ยิงได้ 21 ประตู แอสซิสต์ 3 ประตู | – |
บริน (2016-2017) | ลงเล่น 16 นัด ทำประตูและแอสซิสต์ไม่ได้ | – |
โมลด์ (2017-2019) | ลงเล่น 50 นัด ยิงได้ 20 ประตู แอสซิสต์ 6 ประตู | ด้วยค่าตัวเพียง €0.1 ล้านยูโร |
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (2019-2020) | ลงเล่น 29 นัด ยิงได้ 27 ประตู แอสซิสต์ 7 ประตู | ด้วยค่าตัว €8.0 ล้านยูโร |
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (2020-2022) | ลงเล่น 89 นัด ยิงได้ 86 ประตู แอสซิสต์ 23 ประตู | ด้วยค่าตัว €20.0 ล้านยูโร |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2022-ปัจจุบัน) | ลงเล่น 52 นัด ยิงได้ 52 ประตู แอสซิสต์ 9 ประตู | ด้วยค่าตัว €180.0 ล้านยูโร |
ย้ายทีม
การย้ายมาค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาล 2022-2023 ถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญของ ฮาแลนด์เพราะพรีเมียร์ลีกคือลีกที่แข่งขันสูงที่สุดลีกหนึ่งของโลก และการจะประสบความสำเร็จในลีกนี้ได้นั้นต้องใช้ความสามารถที่เหนือชั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม ฮาแลนด์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เมื่อสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของเป๊ป กวาร์ดิโอลาได้อย่างรวดเร็ว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ฮาแลนด์ไม่เพียงแค่เป็นนักเตะที่มีทักษะ แต่ยังมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของเขาไม่ใช่เพียงผลจากความสามารถที่ได้รับจากพ่อ แต่เป็นผลจากการทำงานหนักและการทุ่มเทในสนาม ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่น่ากลัวที่สุดในยุคปัจจุบัน
ข้อมูลส่วนตัว
ฮาแลนด์เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2000 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เขามีส่วนสูง 195 เซนติเมตร และน้ำหนัก 87 กิโลกรัม ฮาแลนด์เป็นนักเตะที่ชอบเล่นด้วยเท้าซ้าย และมีเบอร์เสื้อหมายเลข 9 ในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สัญญาของเขากับสโมสรจะหมดอายุในวันที่ 29 มิถุนายน 2027 ค่าตัวปัจจุบันของฮาแลนด์ อยู่ที่ประมาณ €180.0 ล้านยูโร
ประวัติการโอนย้ายและค่าโอน
- 2017 ฮาแลนด์ย้ายจากบรินไปโมลด์ ด้วยค่าตัวเพียง €0.1 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการเริ่มต้นอาชีพที่ทำให้เขาได้เติบโตและพัฒนาตนเองในลีกนอร์เวย์
- 2018 การย้ายครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาย้ายจากโมลด์ไปเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ด้วยค่าตัว €8.0 ล้านยูโร การเล่นที่นี่ทำให้เขาได้รับโอกาสลงแข่งขันในเวทียุโรป
- 2019 ฮาแลนด์ย้ายไปโบรุสเซีย ดอร์ทมุนท์ ด้วยค่าตัว €20.0 ล้านยูโร และเป็นที่นี่ที่เขาได้สร้างชื่อเสียงระดับโลก ด้วยการทำประตูที่มากมายในบุนเดสลีกาและยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
- 2022 การย้ายทีมที่สร้างความฮือฮามากที่สุดคือการย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว €60.0 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากสำหรับสโมสร เพราะฮาแลนด์ได้พิสูจน์ความเป็นนักเตะระดับโลกด้วยการทำประตูมากมายตั้งแต่ฤดูกาลแรก
อ้างแหล่งที่มาจาก aiscoer
แชมป์ที่เคยได้รับ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
พรีเมียร์ลีก 1 สมัย (2022-23)
เอฟเอ คัพ 1 สมัย (2022-23)
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย (2020–21)
เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
ออสเตรียน บุนเดสลีกา 2 สมัย (2018–19,2019–20)
ออสเตรียน คัพ 1 สมัย (2018–19)
ด้วยอายุที่ยังน้อยและความสามารถที่โดดเด่น ฮาแลนด์มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกได้ในอนาคต และหลายคนเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของนักฟุตบอลระดับตำนานอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซี
กวาร์ดิโอล่า มองสไตล์การเล่นฮาแลนด์
ฮาแลนด์ ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2022 และตั้งแต่นั้นมา เขาก็กลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยทีมคว้าแชมป์และทำประตูได้มากมาย โดยเฉพาะในเกมลีกสูงสุดของอังกฤษที่เขาทำไป 67 ประตูจากการลงเล่น 68 นัด
กวาร์ดิโอล่า กล่าวถึงความสำคัญของ ฮาแลนด์ ว่า “เออร์ลิง เป็นนักเตะที่ไม่มีใครสามารถทดแทนได้ เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ และเป็นผู้เล่นที่มีความกระตือรือร้นสูงในการกดดันและทำประตู นั่นทำให้ทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเล่นเกมรับและรุก”
เขายังเสริมว่า “แม้ในเกมที่ฮาแลนด์ไม่สามารถทำประตูได้ เขาก็ยังมีความสำคัญต่อทีม เพราะทักษะและความสามารถในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้”