บอลยูฟ่า Player Ratings ( การให้คะแนนนักเตะ )
- จาโคโม รัสปาโดรี[7.5]
- โชคชะตา อูโดกี้[6.9]
- อเลสซานโดร บูออนจิออร์โน[6.7]
ประเดนดราม่า
การกลับมาของอิตาลี ชัยชนะในนัดนี้แสดงให้เห็นว่า อิตาลี ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี กำลังกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง แม้จะต้องเสียผู้เล่นหลายคนจากยุคแชมป์ยูโร 2020
ความผิดพลาดของฝรั่งเศส ความผิดพลาดในเกมรับของฝรั่งเศส ทำให้พวกเขาเสียประตูง่ายๆ และไม่สามารถรักษาความได้เปรียบที่ได้มาตั้งแต่ต้นเกม
อนาคตของทั้งสองทีม ชัยชนะในนัดนี้จะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับนักเตะอิตาลี ในขณะที่ฝรั่งเศสจะต้องกลับไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันนัดต่อไป
การแข่งขันในกลุ่ม กลุ่ม 2 ของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ถือเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดกลุ่มหนึ่ง การแข่งขันในกลุ่มนี้จึงมีความเข้มข้นและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
รายละเอียดการแข่งขัน
ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เปิดฉากด้วยความเข้มข้น เมื่อ อิตาลี บุกมาคว้าชัยชนะเหนือเจ้าบ้าน ฝรั่งเศส ได้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 3-1 ในเกมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ
13 วินาทีที่เปลี่ยนเกม เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นได้เพียง 13 วินาที แฟนบอลเจ้าบ้านก็ได้เฮลั่น เมื่อ แบรดลีย์ บาร์โคล่า ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับอิตาลี ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ฝรั่งเศสออกนำก่อนอย่างรวดเร็ว ทว่าความได้เปรียบของเจ้าบ้านอยู่ได้ไม่นาน
อิตาลีพลิกเกม ทีมเยือนไม่ยอมแพ้และค่อยๆ ครอบครองเกมได้มากขึ้น ก่อนจะมาตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 30 จากจังหวะการทำประตูที่สวยงามของ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ที่ได้บอลจากจังหวะชิ่งหนึ่งสองกับ โทนาลี่ ก่อนจะซัดบอลด้วยซ้ายเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาด
ครึ่งหลังเดือด เข้าสู่ครึ่งหลังเกมการแข่งขันยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก ฝรั่งเศสพยายามจะเร่งเกมเพื่อเอาชนะ แต่กลับเป็นอิตาลีที่ได้ประตูเพิ่มจาก ดาวิเด ฟรัตเตซี่ และ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-1
แผนการเล่นที่น่าสนใจ
เหตุการณ์สำคัญ
ช่วงต้นเกมฝรั่งเศสนำก่อน อิตาลีไม่ยอมแพ้ พวกเขาค่อยๆ ฟื้นฟูเกมและครองบอลได้มากขึ้น จนกระทั่งในนาทีที่ 30 เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ มาทำประตูตีเสมอได้สำเร็จจากการชิ่งบอลหนึ่งสองกับ ซานโดร โทนาลี่ ก่อนที่จะยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ทำให้เกมกลับมาเสมอกัน 1-1 การตีเสมอของอิตาลีทำให้ฝรั่งเศสเริ่มกดดันหนักขึ้น และเปลี่ยนบรรยากาศของเกมไปอย่างสิ้นเชิง
ครึ่งหลังเปิดฉากขึ้นพร้อมกับความดุเดือดที่เพิ่มขึ้น ฝรั่งเศสพยายามเร่งเกมเพื่อเอาชนะ แต่กลับกลายเป็นอิตาลีที่มีความเด็ดขาดกว่า พวกเขาได้ประตูเพิ่มจาก ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ในนาทีที่ 60 ซึ่งเกิดจากจังหวะบุกที่ต่อเนื่องของอิตาลี สร้างความช็อกให้แฟนบอลเจ้าบ้าน และในนาทีที่ 75 จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ทำประตูย้ำชัยชนะให้กับอิตาลีเป็น 3-1 สถานการณ์นี้ทำให้ฝรั่งเศสเริ่มหมดกำลังใจ และไม่สามารถทำประตูคืนได้
ภาพรวมของเกมส์
แม้ฝรั่งเศสจะมีโอกาสบุกหลายครั้ง แต่การจัดการเกมของอิตาลีในช่วงครึ่งหลังทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการป้องกันที่แน่นหนาและการเล่นบอลสวนกลับที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ฝรั่งเศสไม่สามารถเจาะประตูเพิ่มได้ ความตึงเครียดของฝรั่งเศสเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขาพยายามเร่งเกม แต่ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ 1-3 ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอล
“เกมเดือด! อิตาลีแซงฝรั่งเศสชนะ 3-1 หลังตามหลังตั้งแต่ต้น”
ดูผลบอลสดวิเคราะห์บอลวันนี้ ติดตามได้ที่เว็บไซต์บอลยูฟ่า